ในชีวิตประจำวันเราอาจมีการชวนเพื่อนไปไหนมาไหน หรือชวนให้ทำอะไรบางอย่าง รูปแบบของประโยคเชิญชวนนั้นแตกต่างกันออกไป โดยมีดังต่อไปนี้
1. Why don’t you / we + Verb in Present Simple Tense ?
ประโยคเชิญชวนรูปแบบแรก คือ การใช้ Why don’t you / we แล้วตามด้วยคำกริยาช่องที่ 1 ในรูปแบบของ Present Simple Tense และอย่าลืมเครื่องหมาย ? ไว้ท้ายประโยค ซึ่งจะมีความหมายว่า ทำไมเธอ/เราไม่... ล่ะ? เช่น
Why don’t we go shopping?
(ทำไมพวกเราไม่ไปชอปปิงกันล่ะ?)
2. We could + Verb in Present Simple Tense
ประโยคเชิญชวนรูปแบบที่สอง คือ การใช้ We could แล้วตามด้วยคำกริยาช่องที่ 1 ในรูปแบบของ Present Simple Tense ซึ่งจะมีความหมายว่า พวกเราควรจะ... เช่น
We could work it out together.
(พวกเราควรจะร่วมกันแก้ปัญหา)
3. How about + Verb–ing ?
ประโยคเชิญชวนรูปแบบที่สาม คือ การใช้ How about แล้วตามด้วยคำกริยาเติม ing และอย่าลืมเครื่องหมาย ? ท้ายประโยค ซึ่งมีความหมายในเชิงขอความคิดเห็นหรือเชิญชวน เช่น
How about watching Titanic tomorrow?
(พรุ่งนี้ไปดูหนังเรื่องไททานิกกันไหม?)
4. Let’s go to ....
ประโยคเชิญชวนรูปแบบที่สี่ คือ การใช้ Let’s go to … ซึ่งมีความหมายว่า ไป … กันเถอะ เช่น
Let’s go to the pool party this Saturday night.
(ไปปาร์ตี้สระว่ายน้ำคืนวันเสาร์นี้กันเถอะ)
1. Yes, that sounds like a great idea.
(ใช่/ได้ นั่นเป็นความคิดที่ดีทีเดียว)
2. Brilliant!
เป็น Adjective ที่มีความหมายว่า สุดยอด !!! ให้ความรู้สึกว่าเห็นด้วยอย่างยิ่งกับความคิดที่เชิญชวนไปร่วมกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม
3. Count me in too.
การตอบรับประโยคเชิญชวนในข้อนี้ เป็นสำนวนที่มีความหมายว่า ขอแจมร่วมด้วยหรือนับฉันเข้าไปด้วยคน
4. That’s a great idea!
(มันเป็นความคิดที่ดีมาก)
Thanks for your invitation but I'm busy now.
(ขอบคุณสำหรับคำชวนนะ แต่ฉันกำลังยุ่ง)
I’m afraid I won’t be able to come.
(ฉันเกรงว่าฉันคงจะไปไม่ได้)
Unfortunately, I already have plans.
(เสียดายจัง ฉันมีแผนอื่นแล้ว)
I am so sorry I can’t make it.
(ฉันขอโทษนะ ฉันไปไม่ได้จริงๆ)