SEM กับ SEO เป็นเทคนิคทางการตลาดออนไลน์รูปแบบหนึ่ง โดยการนำ Keyword ที่ผู้คนทั่วโลกใช้ในการค้นหาสิ่งที่ต้องการบน Search Engine มาปรับเป็นกลยุทธ์ให้เหมาะกับสินค้าหรือแบรนด์ของเรา เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มสูงขึ้น แต่ SEM และ SEO ก็ยังมีสิ่งที่แตกต่างกัน ดังนี้
ภาพ : Shutterstock
SEM ย่อมาจาก Search Engine Marketing เป็นการใช้วิธีโฆษณาเว็บไซต์ของเราโดยการจ่ายเงินให้กับ Search Engine หรือ Google เพื่อให้เว็บไซต์ของเราปรากฎอยู่บนหน้าแรกและอันดับต้น ๆ ของการค้นหา
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SEM >> SEM คืออะไร มีความสำคัญกับการตลาดออนไลน์อย่างไร
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นการใช้วิธีโฆษณาแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องลงโฆษณา แต่ใช้วิธีการปรับแต่งปัจจัยต่าง ๆ รวมไปถึงการเลือกใช้ Keyword ที่ส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google เพื่อทำให้เว็บของเรามีอันดับที่ดีขึ้นจนสามารถอยู่ในอันดับแรก ๆ ของการค้นหาได้
ภาพ : Shutterstock
ข้อดี
1. เมื่อซื้อโฆษณาจะแสดงผลบน Google ทันทีใน 24 ชม.
2. ใช้อุปกรณ์และบุคลากรน้อย
3. มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเปิด/ปิดการโฆษณาได้ตามต้องการ
4. เจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียด
5. กำหนดช่วงเวลาในการแสดงผลได้
6. ปรับเปลี่ยน Keyword ที่ใช้ได้ตลอด
7. นำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว
ข้อเสีย
1. ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับการประมูล Keyword และระยะเวลาในการโฆษณา
2. มีการแข่งขันในการประมูล Keyword สูง
3. ต้องมีความรู้ในการวางแผนการโฆษณา
4. หากงบหมด หรือไม่จ่ายเงินโฆษณาต่อ อันดับของเว็บไซต์จะตกลงทันที
ภาพ : Shutterstock
ข้อดี
1. ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
2. ยอดที่เข้าเว็บเป็น Organic ทั้งหมด
3. แสดงผลตลอด 24 ชม.
4. เพิ่มยอดการเข้าถึงและยอดขายได้ในระยะยาว
5. อัตราการคลิกสูง ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ดี
6. เว็บไซต์หรือเพจมีความน่าเชื่อถือ
ข้อเสีย
1. ต้องใช้ระยะเวลากว่าจะเห็นผล
2. ต้องมีความละเอียดและใส่ใจ ในการเลือกใช้ Keyword
3. หากไม่ทำ SEO อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้อันดับตกได้
4. หากทำ Backlink กับเว็บไซต์คุณภาพไม่ดี อาจทำให้อันดับเว็บเราตกได้
ที่มาข้อมูล