เราอาจเคยเห็นโพยไอเดียทำวิดีโอผ่านตามาบ้างใช่ไหมคะ ? แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า สไตล์ไหนที่ใช่สำหรับเราที่ทำแล้วรุ่ง อย่างน้อยถ้าไม่รุ่งก็ต่อยอดได้ไม่หลงทางให้เสียเวลา แต่การเฟ้นหาสไตล์ของตัวเองมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกอยู่ดีนั่นแหละ ยิ่งเป็นสไตล์การทำวิดีโอยิ่งไม่ง่ายเลย เพราะมีข้อหัวให้ทำมากมาย และถึงแม้การได้ลงมือทำอะไรบางอย่างจะให้ประสบการณ์ที่พิเศษแก่บุคคลนั้นก็จริง แต่ก็ไม่มีใครอยากทำอะไรแล้วจบลงด้วยคำว่า ไม่คุ้มค่า หรือว่าพลาด ทุกคนอยากทำวิดีโอที่ประสบความสำเร็จและตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้กันทั้งนั้น
เริ่มต้นด้วยการลอกเลียนแบบ แล้วเราจะพบตัวตนและสร้างผลงานในแบบของเราเอง
Cr.austinkleon
จากการได้ศึกษาหนังสือ Steal Like An Artist ที่เขียนโดย Austin Kleon (ออสติน คลีออน) นักเขียนและศิลปินชาวอเมริกันที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะจากนิตยสาร New York Time ซึ่งผลงานการเขียนของเขาได้รับการตีพิมพ์ไปแล้วกว่า 1 ล้านเล่มทั่วโลก คุณออสตินได้ให้คำแนะนำที่น่าสนใจเกี่ยวกับการค้นหาตัวตนด้วยการ ‘เลียนเเบบ’ ในนิยามใหม่ ที่อาจทำให้เราค้นพบสไตล์ของตัวเองในการทำงานสร้างสรรค์ที่เหมาะกับยุคนี้ได้ โดยเขาได้นิยามการค้นพบตัวตนในแบบฉบับของเขาไว้ว่า ‘Don’t wait until you know who you are to get started.’ อย่ารอจนกว่าจะรู้ว่าเราเป็นใครเพื่อที่จะเริ่มต้น เริ่มต้นด้วยการลอกเลียนแบบ แล้วเราจะพบตัวตนและสร้างผลงานในแบบของเราเอง
Cr.austinkleon
อาจเป็นวิธีที่เนิร์ดไปนิด แต่อยากให้ลองดูค่ะ ลองศึกษาที่มาของความคิด วิเคราะห์ YouTuber หรือ Creator ที่เราชื่นชอบดูทีละคน โดยศึกษาทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เกี่ยวกับเขา ตั้งแต่วิธีที่เขาเล่าเรื่อง จังหวะการพูด การใช้น้ำเสียง ท่าทางเวลาพูด และเทคนิคการตัดต่อวิดีโอ สไตล์ของวิดีโอที่เขาใช้ เขาทำวิดีโอยาวเท่าไหร่ การตัดต่อเป็นอย่างไร โปรโมทผลงานอย่างไร ใช้สื่อโซเชียลไหนบ้าง แล้วมาดูภาพรวมทั้งหมดว่าอะไรที่เป็นข้อดีข้อเสีย จากนั้นลองมองหาอีก 2-3 คนที่ยูทูบเบอร์หรือว่าครีเอเตอร์ที่คนนั้นชื่นชอบ และศึกษา 3 คนนั้นด้วย แล้วเราจะเจออะไรที่เหมือนกันมากขึ้นเพื่อใช้เป็น Materials ในวิดีโอของเราต่อไปได้
เราจะค้นพบตัวตนของเราก็ต่อเมื่อเราเริ่มลงมือทำหรือสร้างสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาค่ะ ถ้าคิดไม่ออกว่าต้องเริ่มต้นทำอะไร อย่างไร ก็แค่ลอกเลียนแบบ ไม่มีใครเกิดมามีมุมมองหรือสไตล์เฉพาะตัวในทันทีทันใด คนเราเติบโตมาด้วยการเลียนแบบ นักสร้างสรรค์ที่ดีจะเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีที่มาเสมอ วิดีโอที่ประสบความสำเร็จทุกชิ้นล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่เคยมีมาก่อนแล้ว ดังนั้นในช่วงเริ่มต้นค้นหาสไตล์ของตัวเอง ให้เราเริ่มด้วยการเลียนแบบฮีโร่ในดวงใจของเราก่อน โดยตั้งโจทย์ว่าเราควรจะลอกเลียนแบบใคร จากนั้นคิดให้ออกว่าเราควรจะเลียนแบบ ‘อะไร’ จากเขา (เหมือนน้องแพร พาเพลินที่สวมบทเป็นคุณโมเม พาเพลิน YouTuber ที่น้องชอบ ทำคลิปแต่งหน้าจนดัง)
Cr.austinkleon
การลอกเลียนแบบก็คือ การศึกษาสิ่งนั้นอย่างลึกซึ้งจากหลาย ๆ คน ให้เครดิต ปรับเปลี่ยนแล้วรื้อโครงสร้างเดิมออก แล้วประกอบขึ้นมาเป็นรูปแบบใหม่ แต่การขโมยคือการฉาบฉวย ไม่ศึกษาจากหลาย ๆ คน แล้วอ้างว่าเป็นของตัวเอง หรือที่เราเรียกว่าลอกมาทั้งดุ้น ! และวิธีที่จะทำให้เราไม่เผลอไปลอกหรือก๊อปคนอื่นก็คือ การให้ความรู้กับตัวเองค่ะ ศึกษาเรื่องที่เราจะทำอย่างลึกซึ้งถึงต้นตอของแหล่งที่มา การฟังคนอื่นเล่าเป็นทางที่ง่ายในการเข้าใจบางอย่างก็จริง แต่ถ้าเราขุดคุ้ย ไล่ตามที่มาที่ไปของสิ่งที่เราอยากรู้มากกว่าฟังคนอื่น หรือคน ๆ เดียว เราก็จะมีข้อมูลมากมาย และสามารถที่จะดีไซน์ข้อมูลเหล่านั้นไปในทางที่แตกต่างจากคนอื่นได้
อย่างที่เรารู้กันดีว่าไอเดียทำคลิปวิดีโอมีอยู่มากมาย ทุกวันนี้เราสามารถที่จะทำวิดีโอเรื่องอะไรก็ได้ เกี่ยวกับอะไรก็ได้ (ที่ไม่ผิดกฎหมายนะคะ) ไม่ว่าจะเป็นรีวิวสินค้า, สัมภาษณ์ผู้คน, Tutorials, Home Tour, ทำ Challenge, ทำ Vlog, ทำคลิปท่องเที่ยว, ทำ Live Stream หรือทำคลิป Reaction ศิลปินเกาหลี ฯลฯ ให้เราเลือกไอเดียที่เราชอบที่สุดมา 3 อันดับ แล้วลองทำดูทั้ง 3 ไอเดียค่ะ ลองทำเล่น ๆ แล้วให้เพื่อนที่สนิทดู ให้คนที่เราไว้ใจคอมเมนต์ แล้วให้เขาช่วยโหวตว่าวิดีโอไหนที่ถูกใจพวกเขามากที่สุดและเพราะอะไร แล้วจดสิ่งที่เป็นประโยชน์เอาไว้พัฒนาตัวเอง
Cr.austinkleon
เมื่อได้เรื่องที่ชอบที่สุดมา 3 เรื่องแล้ว ให้ลองแสร้งทำ สวมจริตใครก็ได้ที่คิดว่าเข้ากับเรื่องที่เราจะทำดูค่ะ เทคนิคนี้ถูกนำมาใช้แทบจะทุกวงการเลยนะคะ นักบาสเก่ง ๆ เวลาลงสนามก็ยังต้องคอยบอกตัวเองเสมอว่าตัวเองเก่งที่สุด แม้เขาจะลงเล่นกับ LeBron James ก็ตาม มันคือการสร้างพลังใจให้เกิดขึ้นเวลาอยู่หน้ากล้อง สมมติว่าทำได้ไปก่อน จนกว่าจะทำได้จริง ๆ สวมบทเป็นยูทูบเบอร์อันดับหนึ่งไปเลยก็ได้ค่ะ แล้วทำมันออกไปด้วยความมั่นใจเต็มร้อย ความมั่นใจคือเสน่ห์ที่เกินต้านที่สุด เริ่มเป็นครีเอเตอร์ที่เราอยากเห็น ลงมือทำสิ่งที่เราอยากทำด้วยความมั่นใจไปก่อน
การทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างการทำวิดีโอต้องอาศัยพลังเยอะมาก หากวันหนึ่งเราลองแสร้งทำไปแล้ว ลองทำแล้วทุกบทบาทแต่มันไม่มีความสุข ให้ตัดเรื่องนั้นออกไปเลย แล้วหันไปหาสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสนุกและมีความสุขอีกครั้ง เหมือนการรีสตาร์ทใหม่ ครีเอเตอร์หลายคนลองผิดลองถูก เปลี่ยนแนวจนเจอเเนวที่ใช่ แต่ยังคงธีมเดิม เช่น YouTuber ชื่อดัง Bie The Ska ที่เกือบจะเลิกทำ YouTube ไปเป็นพนักงานประจำเหมือนเดิม จนกระทั่งเปลี่ยนแนวไปทำคลิป Cover เพลง Gangnam Style ของ PSY เขาก็กลับมาได้อีกครั้ง และยึดมั่นจะทำวิดีโอตลก เรียกเสียงหัวเราะต่อไป
หากลองทำแล้วมันไม่ใช่ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราเข้าใจสไตล์ตัวเองได้มากขึ้นเหมือนกันค่ะ การเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ มีข้อได้เปรียบตรงที่ว่า เราไม่ต้องกดดันมาก ไม่มีแฟนคลับคอยรอชมผลงาน ไม่มีลูกค้ามาต่อคิวซื้อแอด หมายความว่าเรายังพอมีเวลาลองไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอสไตล์ที่ใช่สำหรับเราจริง ๆ
ที่มาข้อมูล