หากคุณต้องการประสบความสำเร็จด้วยแนวคิดใน Online Business คุณมาถูกทางแล้ว เพราะการดำเนินธุรกิจผ่านระบบออนไลน์นั้นสามารถทำได้ง่ายกว่าการทำธุรกิจในรูปแบบเดิมเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันการค้าขายออนไลน์ยังได้รับความนิยมมากที่สุดและคาดว่าจะเติบโตมากยิ่งขึ้นในอนาคต เพราะอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือทรงพลังที่สามารถเชื่อมต่อคนทุกคนบนโลกใบนี้ได้ สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร, ความบันเทิง, ซื้อ-ขายสินค้า หรือแม้แต่การนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ เพื่อสร้างกระแสเงินสดและผลกำไรให้กับคุณได้ หากคุณกำลังมองหาไอเดียใหม่ ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการทำ ธุรกิจออนไลน์ ลองดูเทรนด์ของธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในปี 2022 ซึ่งจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

8 Online Business ที่จะเติบโตในอนาคต

1. Telehealth

Telehealth หรือ การให้บริการวินิจฉัยโรคผ่านระบบออนไลน์ การแพร่ระบาดของ covid-19 เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะ ธุรกิจออนไลน์ อย่าง Telehealth หรือการบริการสาธารณะสุขทางไกลผ่านระบบออนไลน์หรือเป็นลักษณะของ Video Conference ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในอเมริกาและยุโรปเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสและลดการติดเชื้อของบุคคลที่เจ็บป่วยและต้องการขอคำปรึกษา แต่เกรงว่าหากไปโรงพยาบาลแล้วจะไม่ปลอดภัย เดิมทีจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษาหรือผ่าตัดผู้ป่วยด้วยวิธีการรีโมทจากต่างสถานที่กัน แต่เมื่อเกิด COVID-19 จึงเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการคัดกรองผู้ป่วยและสอบถามอาการเบื้องต้น ก่อนจะนัดคิวเพื่อเข้ารับการรักษา ซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก นอกจากจะไม่ต้องกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโรคแล้ว ยังไม่ต้องรอคิวนาน ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และลดจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้อีกด้วย

2. Freelance Content Writer

งานเขียนเป็นหนึ่งในงานที่ทรงคุณค่าอย่างมากในโลกออนไลน์ นักเขียนสามารถทำงานได้จากทุกที่ ควบคุมเวลาและบริหารจัดการตนเองได้ สร้างรายได้ด้วยการให้ข้อมูล ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่าแก่ผู้ที่ต้องการ เพราะในปัจจุบันผู้คนมักใช้ search engine ในการค้นหาข้อมูล ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นบทความ ข้อมูลที่เป็นตัวหนังสือ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะช่วยให้คุณเติบโตในฐานะนักเขียนและผู้ประกอบการในขณะที่เป็นเจ้านายของคุณเอง เช่น การเป็น Blogger, รีวิวสินค้า, การเขียนบทความเชิงความรู้, การเขียนบทความให้ข้อมูลเฉพาะทาง หรือหากมีความสามารถในการเขียนนิยาย สามารถนำไปลงแอปพลิเคชัน อย่าง Joylada, Tunwalai หรือ readAwrite เพื่อขายให้ผู้อ่านติดตามแบบเป็นตอน ๆ หรือการทำ e-book, social media content เป็นต้น

3. ขายรูปถ่ายดิจิทัล

เชื่อหรือไม่ว่าเพียงคุณมีมือถือที่ถ่ายรูปได้เพียงเครื่องเดียวและมีฝีมือการถ่ายภาพก็สามารถที่จะขายรูปภาพบนโลกออนไลน์ได้แล้ว ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เช่น รูปถ่ายอาหาร, รูปถ่ายเชิงพาณิชย์หรือรูปถ่ายจากการท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งรูปภาพที่คุณถ่ายนั้นจะมีคุณค่ามากยิ่งขึ้นเมื่อนำมาจำหน่ายผ่านทาง NFT Crypto Art แม้จะเป็นรูปถ่ายในรูปแบบดิจิทัลแต่ก็มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ไม่สามารถ copy หรือลอกเลียนแบบได้ เพราะต่อให้ลอกเลียนแบบหรือ copy ขึ้นมา ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ก็จะจดจำได้ว่ารูปของคุณเป็นของจริง นอกจากนี้ยังมีเว็บขายรูปอย่าง Shutterstock ให้คุณนำผลงานดังกล่าวไปวางขายได้ เพื่อสร้างรายได้อย่างไม่จำกัด เพราะหากมีคนสนใจจะต้องการใช้รูปของคุณจะต้องจ่ายเงินก่อนจึงจะสามารถดาวน์โหลดรูปนั้นไปใช้ได้ นอกจากรูปถ่ายที่สามารถนำมาลงขายในรูปแบบออนไลน์แล้ว งานออกแบบบ้าน, อาคารสำนักงาน, ออกแบบสวน, งานกราฟิกที่ทำผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็นำมาขายได้เช่นกัน 

4. เริ่มต้นธุรกิจกับ Virtual Reality และเกมออนไลน์

คงไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าในอนาคตอันใกล้นี้ทุกคนจะต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและหาโอกาสใหม่ ๆ ในโลกเสมือนจริง ซึ่งนอกจากที่จะขายสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์แล้ว อาจจะต้องขายสินค้าในโลกเสมือนจริงด้วย เมื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ประกาศเดินหน้าพัฒนา Metaverse อย่างเต็มที่ ภายหลังจากเปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น Meta ในขณะที่การเล่นเกมออนไลน์สามารถที่จะสร้างรายได้ให้กับบรรดาเกมเมอร์ได้จริง ๆ แล้ว เช่น เกม Axie Infinity ที่เล่นอยู่บน Blockchain ของ Ethereum ซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหรียญ AXS ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง $156.18 USD หรือ 5,153.94 บาท เมื่อ 1 USD =33.00 THB (ข้อมูล ณ วันที่ 7/11/2021 จาก https://www.coingecko.com/th/coin/axie-infinity) ไม่เพียงแต่เหรียญ AXS ที่ขายได้แล้ว ไอเทมอย่างสัตว์เลี้ยงภายในเกมก็สามารถขายออกมาเป็นเงินจริงได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเกม NFT ยอดนิยมให้ได้เลือกเล่นและสร้างรายได้อีกมาก เช่น Sorare, F1 Delta Time, CryptoKitties และ Evolution Land เป็นต้น

5. Affiliate Marketing

หากคุณคิดไม่ออกว่าจะทำ ธุรกิจออนไลน์ ขายอะไรดี Affiliate Marketing คือ การตลาดแบบพันธมิตรหรือการโฆษณา, การเป็นนายหน้า, ตัวแทนในการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ เช่น Amazon, Shopee, Lazada หรือ JD CENTRAL ที่เป็นแพลตฟอร์มในการขายสินค้าออนไลน์ เพียงคุณแนะนำให้คนมาซื้อสินค้าผ่านทางลิงก์ของคุณ ก็จะได้รับเปอร์เซ็นต์จากการขายสินค้านั้น ๆ ตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ โดยที่คุณไม่ต้องสต็อกสินค้าใด ๆ และการขายสินค้าออนไลน์มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นในทุก ๆ ปี โดยรูปแบบการสร้างรายได้ของ Affiliate Marketing มีดังนี้

- Pay-Per-Sale หากลูกค้าซื้อสินค้าจากลิงก์ของคุณ คุณจะได้รับเปอร์เซ็นต์จากการขายสินค้า

- Pay-Per-Lead คือการจ่ายเงินตามจำนวนการแนะนำ เช่น จากการกรอกแบบสอบถาม, จากคำแนะนำ, จากการทดลองใช้ เป็นต้น

- Pay Per-Click จ่ายตามจำนวนครั้งที่คลิก โดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบของแบนเนอร์โฆษณา

6. ขาย Courses Online

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง ก็สามารถที่จะสร้างคอร์สเรียนออนไลน์ให้กับผู้ที่สนใจได้ เช่น การเขียนโปรแกรม, การทำอาหาร, ความรู้เฉพาะในสาขาวิชานั้น ๆ อาทิ คณิตศาสตร์, เคมี, เครื่องดนตรี หรืองานซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยเป็นคอร์สแบบออนไลน์ โดยที่ผู้เรียนชำระเงินค่าเรียน ก็จะสามารถ login เข้าสู่ระบบเพื่อเรียนคอร์สเรียนที่สนใจได้ หรือจะผันตัวมาเป็นตัวแทนขายคอร์สเรียนออนไลน์ โดยที่ไม่ต้องสอนเองก็ได้

7. ขายสินค้า Handmade

สินค้า Handmade เป็นหนึ่งในสินค้ายอดนิยมที่มักจะทำเงินให้แก่บุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีฝีมือในการทำสินค้า Handmade เป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นสินค้าที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก เพราะต่อให้ทำซ้ำออกมาก็ยากที่จะเหมือนกัน เนื่องจากสินค้า Handmade ส่วนใหญ่จะไม่ใช้เครื่องจักรในการผลิต แต่จะใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์เพียงเท่านั้น จึงจะสามารถผลิตสินค้าออกมาได้ ซึ่งจะคล้ายกับการขายรูปภาพผ่าน NFT เพียงแต่สินค้า Handmade จะเป็นในรูปของวัตถุจับต้องได้ สำหรับแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้า Handmade ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Etsy 

8. ธุรกิจผูกปิ่นโต

Subscription Boxes หรือธุรกิจผูกปิ่นโต เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเติบโตและไปได้สวยในสหรัฐอเมริกา เป็นที่แน่นอนว่าการขายสินค้าออนไลน์เพียง 1 ชิ้น ก็สามารถที่จะทำกำไรให้กับคุณได้ แต่จะดีกว่าไหม หากสามารถทำให้ลูกค้าคนเดิมกลับมาซื้อสินค้ากับคุณซ้ำแล้วซ้ำอีก เพียงแต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบนำเสนอใหม่มาเป็นแบบ Subscription Boxes หรือ ผูกปิ่นโตรายเดือน เช่น Netflix ที่นำเสนอหนังและละครในรูปแบบรายเดือน, Microsoft 365 และ Adobe ที่ผู้ใช้จะต้องจ่ายรายเดือนหรือรายปี, การสั่งอาหาร-เครื่องดื่ม, ของใช้ส่วนตัว, อาหารสัตว์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ผู้รับรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้รับพัสดุหรือ Subscription Boxes จากคุณในทุก ๆ เดือน หรืออาจเพิ่มของขวัญ, ของแถมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น

สำหรับใครที่คิดไม่ออกว่าจะทำ ธุรกิจออนไลน์ขายอะไรดี ลองเปลี่ยนความคิดแล้วหันกลับมามองดูตนเองให้ดีว่ามีความรู้ความสามารถอะไรบ้าง โดยไม่จำเป็นต้องขายสินค้าเสมอไป หากแต่เป็นการขายความสามารถของตนเองหรือการนำเสนอตนเองผ่านโลกออนไลน์ เพื่อสร้างผลตอบแทนได้อย่างยั่งยืน ยิ่งคุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้กับผู้คนได้มากเท่าไร ยิ่งได้รับผลตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น

ที่มาข้อมูล

• https://blog.softsyshosting.com/2021/05/17/best-online-business-ideas-2022/
• https://zyro.com/blog/online-business-ideas/
• https://www.youtube.com/watch?v=691V_c6KaV8
• https://www.youtube.com/watch?v=XlDiKIX-mX4
• https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/69/wr/mm6943a3.htm
• https://esport-underground.com/5-เกม-nft-น่าเล่น/