Airbnb คือ ธุรกิจการให้จองที่พักแบบ Home-sharing ถือกำเนิดขึ้นในปี 2007 โดยไบรอัน เชสกี, โจ เกบเบีย และเนท เบลชาร์ซิค สามหนุ่มสามมุมชาวอเมริกัน พวกเขาได้เปิดบ้านต้อนรับผู้เข้าพัก 3 คนในซานฟรานซิสโก จากวันนั้นถึงวันนี้จำนวนโฮสต์ผู้เปิดบ้านของตัวเองให้คนอื่นได้เข้าพักเติบโตเป็น 4 ล้านคน และต้อนรับผู้มาเยือนมากกว่า 1,000 ล้านคนในเกือบทุกประเทศทั่วโลก  

ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุกิจ Airbnb หรือแพลตฟอร์มตัวกลางสำหรับโพสต์และจองห้องพักกำลังเติบโตไปได้สวย แม้จะเจอกับโควิด-19 ก็ตาม ในแต่ละคืนมีผู้เข้าพักที่พักของ Airbnb กว่า 2 ล้านคนใน 100,000 เมืองทั่วทุกมุมโลก มีที่พักให้เลือกกว่า 6 ล้านแห่งกระจายอยู่ใน 191 ประเทศ ซึ่งมากกว่าที่พักของเครือโรงแรมยักษ์ใหญ่ 5 อันดับมารวมกัน ส่วนความนิยมในการจองห้องพักผ่าน Airbnb ก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ คนที่อยากมาเป็น Host ใน AIrbnb เพื่อสร้างรายได้เสริม หรือผันตัวมาทำเป็นงานประจำก็เรียกว่ามากมาย เพราะนอกจากความเด่นของห้องพักที่มีเอกลักษณ์แล้ว Airbnb ยังออกแคมเปญเจ๋ง ๆ ด้วยการจัดกิจกรรมที่สร้างแรงบันดาลใจขยายธุรกิจด้วยเอ็กซ์พีเรียนซ์ให้ผู้เข้าพักได้ลองทำอีกด้วย 

ไม่ว่าคุณจะมีบ้าน คอนโด หรือห้องสักหนึ่งห้องในบ้านที่ว่างอยู่ คุณก็สามารถเริ่มต้นทำ Airbnb เป็นโฮสต์เพื่อหารายได้ผ่านการให้เข้าพักได้ง่าย ๆ ถามว่าเทรนด์การสร้างรายได้ผ่าน Airbnb ในประเทศเรามันติดเทรนด์บ้างไหม ? ล่าสุดทาง Airbnb ก็ได้เผยสถิติที่พักติดอันดับที่พักในฝันของนักเดินทางทั่วโลก ซึ่ง Airbnb เผยว่าที่พักไทยในภูเก็ตติดอันดับ 9 ของที่พักในฝันของนักเดินทางทั่วโลก พร้อมคลาสทำอาหารไทยคือ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ ที่มีการจองมากที่สุดในประเทศไทย รองลงมาคือบ้านต้นไม้ที่เชียงใหม่ ไปจนถึงที่พักที่ตกแต่งอย่างสวยงามในกรุงเทพฯ (ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่) 

ที่พักในประเทศไทยที่นักเดินทางบันทึกใน Wish List ว่าอยากไปมากที่สุดในปี 2563 ได้แก่

1. ที่พักพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว (ภูเก็ต)
2. วิลล่าหรูวิวทะเล (ภูเก็ต)
3. บ้านสวยพร้อมสวน (กรุงเทพฯ)
4. ที่พักในเมือง (กรุงเทพฯ)
5. บ้านต้นไม้รายล้อมด้วยธรรมชาติ (เชียงใหม่)
6. บ้านพร้อมสระริมน้ำ (กระบี่)
7. บ้านไร่ใกล้ธรรมชาติ (เชียงใหม่)
8. ที่พักเก๋ในเมืองกรุง (กรุงเทพฯ)
9. บ้านเปิดโล่งรับวิวสวย (สมุย)
10. บ้านไม้ริมทะเล (กระบี่)

จะเห็นได้ว่าที่พักในเมืองไทยเราก็เป็นที่พักในฝันของนักเดินทางทั่วโลก จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถ้ามีโอกาส เราเองก็อยากสร้างมิตรภาพเปิดบ้านให้เช่า ในขณะเดียวกันก็ได้ค่าเช่าเป็นการตอบแทนด้วยเหมือนกัน เพราะแม้แต้ผู้บริโภคอย่างเราเองก็ยังแอบมีใจเข้าแอป Airbnb เช็กห้องเก๋ ๆ เวลาจะมีทริปใหม่ ๆ เพื่อหาห้องพักที่มีเอกลักษณ์ที่โรงแรมทั่วไปให้ไม่ได้ ไปดูกันดีกว่าว่าห้องพักจากทั่วทุกมุมโลกที่ให้เข้าพักผ่าน Airbnb ที่ไหนบ้างที่ติดท็อปที่พักในฝันของนักเดินทางทั่วโลก 3 อันดับ จากจำนวนไลก์ที่มากที่สุดในอินสตาแกรมของ Airbnb 

1. Zion EcoCabin (Hildale, UT, United States)

Cr. Airbnb

ภาพที่มีคนกดไลก์มากที่สุดบนอินสตาแกรมของ Airbnb ประจำปี 2021 คือภาพที่ประกอบไปด้วยวิวที่สวยงาม ในลักษณะ panorama ของอุทยานแห่งชาติไซออน (Zion National Park) เป็นที่พักกระท่อมทรงเอจากมุมสูง 

2. Raven Rock Treehouse (Fletcher, NC, United States)

Cr. Airbnb

ห้องพักที่คนกดไลก์มากที่สุดเป็นอันดับสองก็ยังเป็นห้องพักประเภทกระท่อม (Cabin) แต่ความเด่นของ Raven Rock Treehouse คือมันเป็นกระท่อมที่สร้างบนต้นไม้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่รกร้างว่างเปล่า 40 เอเคอร์ใกล้ ๆ กับ Raven Rock Mountain 

3. Crow’s Nest (Monte Rio, CA, United States)

Cr. Airbnb

อันดับที่ 3 ก็ยังหนีไม่พ้นที่พักที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ อย่าง Crow’s Nest ซึ่งตั้งอยู่ในมอนเตริโอ แคลิฟอร์เนีย โดยสามารถมองเห็นผืนป่าได้จากมุมสูง ตัวบ้านถูกล้อมรอบไปด้วยป่า Redwood ซึ่งเป็นป่าที่มีต้นไม้ชนิดที่หาดูได้ยากและเก่าแก่  

หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า ถ้าหากสนใจอยากจะเปิดบ้านหรือว่าห้องให้เช่าผ่าน Airbnb จะต้องรู้อะไรบ้าง ยุ่งยากไหม ? เรามีความรู้และเคล็ดลับวิธีเริ่มต้นธุรกิจกับ Airbnb เปิดบ้านให้เข้าพักแบบฉบับของนิคและซาร่าห์ รุสโซ-คาราแคน เจ้าของที่พักดีเด่น คู่สามีภรรยาที่เปลี่ยนมาทำธุรกิจให้เช่าที่พักแบบเต็มเวลาในโคลัมบัส โอไฮโอมาฝากกัน 

วางแผนธุรกิจให้เช่าที่พัก Airbnb ฉบับเริ่มต้น 

1. ตั้งเป้าหมาย อยากทำที่พักแบบไหน  

ตั้งเป้าหมายของการเปิดบ้านให้เช่าว่าเพื่ออะไร เช่น สร้างที่พักที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิต สร้างที่พักเพื่อให้ประสบการณ์ที่ดี เป็นต้น เพื่อนำทางและเป็นหลักให้เรายึดเมื่อต้องตัดสินใจทำอะไรต่าง ๆ เกี่ยวกับที่พักไม่ให้หลงทาง นอกจากนี้ยังต้องมีแรงบันดาลใจในการทำที่พักเพื่อที่จะออกแบบที่พักได้ตามเป้าหมาย คุณค่าที่คิดว่าสำคัญคืออะไร อยากทำงานในลักษณะไหนประกอบกันไปด้วย 

2. สำรวจตลาด หาแรงบันดาลใจ

ในเมื่อเราจะทำที่พักแล้ว ให้ลองดูที่พักในท้องถิ่น ละแวกบ้านเราเพื่อหาแรงบันดาลใจ หาข้อมูลและสำรวจก่อนว่าตลาดที่พักในพื้นที่ใกล้เคียงของเรามีการแข่งขันเป็นอย่างไร การศึกษาข้อมูลเบื้องต้นจะช่วยกำหนดแนวทางในการออกแบบ สร้างแบรนด์ และโปรโมทที่พัก คิดดูว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร คนแบบไหนที่จะจองที่พักของเราบ้าง เช่น เมืองที่เราอยู่กับใกล้มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ลูกค้าที่น่าจะมาพักอาจเป็นพ่อแม่ที่มีลูกเรียนในมหาวิทยาลัยนั้น และอย่าลืมสำรวจสิ่งเหล่านี้

• มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง 
• อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงมาหรือเปล่า 
• มีที่จอดรถหรือสระว่ายน้ำไหม
• ที่พักตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์หรือเปล่า

3. คำนวณค่าใช้จ่ายเพื่อสร้างกำไร

คือการทำงบประมาณ คำนวณค่าใช้จ่ายเพื่อให้มีแนวทางสู่เป้าหมาย โดยแบ่งค่าใช้จ่ายเป็น 3 หมวด บวกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และคิดดูว่าพอใจกับเงินที่ลงทุนกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ไหม ถ้ายังไม่พอใจ ก็อาจจะต้องรัดเข็มขัดรายการบางอย่างเพื่อไม่ให้เกินงบและอยู่ในจำนวนที่จ่ายไหว บวกลบแล้วไม่ขาดทุน ได้กำไร

• ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า: ค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปกับที่พักก่อนที่จะเปิดให้เช่า เช่น การรีโนเวท ของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ และรูปถ่าย 

• ค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง: ของจำเป็นที่ผู้เข้าพักใช้ซึ่งคุณต้องเตรียมไว้ไม่ให้ขาด เช่น ของใช้ในห้องน้ำ กระดาษชำระ กระดาษเช็ดมือ หลอดไฟ น้ำหรือกาแฟ 

• ค่าใช้จ่ายในการจัดการและซ่อมบำรุง: ค่าใช้จ่ายนี้ครอบคุลมทุกอย่างที่จะทำให้ที่พักปลอดภัย น่าอยู่ และสะดวกสบาย ซึ่งรวมถึงด้านนอกตัวบ้าน พื้นที่รอบบ้าน และสนามหญ้า คุณจะจ้างผู้ช่วยเจ้าของที่พักหรือคนทำความสะอาดไหม ?

4. ทดลองให้คนอื่นมาเข้าพัก 

บางทีการที่เราเป็นคนทำห้องพักเอง เห็นขั้นตอนทุกอย่าง ลงมือสร้างด้วยตัวเอง เราจะไม่รู้ว่าเราขาดอะไรไปบ้างเพราะเห็นจนชินตา การให้เพื่อนหรือคนที่เราไว้ใจมาลองพักและคอมเมนต์ห้องพักให้อย่างตรงไปตรงมาก่อนที่จะต้อนรับผู้เข้าพักคนแรกก็จะทำให้ห้องพักของเราสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพราะเพื่อน ๆ อาจมีความเห็นที่มีประโยชน์ต่อการส่งเสริมห้องพักของเราให้ดี เพราะต่างคนก็ต่างความคิดกันไป ความคิดเห็นที่หลากหลาย เราก็นำมาปรับใช้ พัฒนาห้องพักต่อไป เช่น กลิ่นของสบู่รับได้ไหม บางคนก็อาจชอบให้ในห้องน้ำมีที่ชาร์จแบต เป็นต้น 

5. หาเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ทำงานสะดวกขึ้น 

ช่วงที่เพิ่งเปิดห้องพักแรก ๆ เราอาจต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองก่อนเพื่อให้รู้ขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอน แต่ก็อย่าลืมที่จะมองหาเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น แอปและสมาร์ทล็อคมาช่วยในการให้เช่าที่พักสำรองไว้ในอนาคตหากห้องของเรามียอดจองเยอะมากขึ้น รวมถึงเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะมาช่วยสร้างผลกำไรอย่างการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย 

• แอปพลิเคชัน: เอาไว้ใช้เมื่อเวลามีคนจองห้องเข้ามา แอปก็จะส่งการแจ้งเตือนกิจกรรมในปฏิทินให้เรา พาร์ทเนอร์ หรือแม่บ้านเตรียมตัวทำงาน

• สมาร์ทล็อค: เป็นระบบที่จะทำให้ผู้เข้าพักได้รับรหัสเฉพาะซึ่งจะใช้ได้ระหว่างที่จองที่พักเท่านั้น ผู้เข้าพักจะสามารถเช็กอินเองได้

• ศึกษาอัลกอริทึมการค้นหาของ Airbnb: ปัจจัยหลายอย่างมีผลต่ออันดับที่พักในผลการค้นหา หากต้องการทำให้อันดับดีขึ้น ลองตั้งราคาให้สูสี รับคำขอจองมากขึ้น และมุ่งมั่นสู่การเป็นเจ้าของที่พักดีเด่น 

อ่านมาถึงตรงนี้หากใครสนใจอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในการทำห้องพักกับ Airbnb ติดอาวุธให้พร้อมรบ ต้องมาเรียนคอร์ส ‘Airbnb Rental Arbitrage’ คอร์สที่จะช่วยให้คุณรู้จักการลงทุนเพื่อสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอจากอสังหาและพร้อมจะขยายธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ที่มากขึ้นในอาณาจักร Airbnb เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยผลตอบแทน 20% ต่อปี โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูงหรือมีที่พักเป็นของตัวเอง สอนโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้เป็น Airbnb Superhost ติดต่อกันถึง 24 สมัยซ้อน 

เรียนรู้การสร้างรายได้จากห้องพักผ่าน Airbnb ตั้งแต่คอนเซ็ปต์ของการลงทุนไปจนถึงการบริหารจัดการได้แล้วตอนนี้ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ที่มาข้อมูล

• https://th.airbnb.com/resources/hosting-homes/a/making-a-hosting-business-plan-98
• https://news.airbnb.com/wanderlust/
• https://news.airbnb.com/th/https-news-airbnb-com-th-airbnb-reveals-most-wish-listed-stays-and-most-booked-online-experiences-th/
• https://news.airbnb.com/the-most-liked-homes-on-airbnbs-instagram-in-2021/