เรื่อง “คะแนน” ที่ต้องรู้! ก่อนเปิดสนามสอบ TCAS66
1602 views | 10/10/2022
Copy link to clipboard
พี่นัท นัททยา
Content Creator

     อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า TCAS66 ได้มีการปรับข้อสอบใหม่ยกเซต แถบยังจัดระเบียบการสอบใหม่ ทำให้น้อง ๆ หลายคนให้ความสนใจไปแต่เรื่องของตัวข้อสอบ เนื้อหาวิชาที่สอบ รวมไปถึงการเตรียมตัวสอบ แต่เรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ปล่อยเทปล่อยทิ้งไม่ได้เด็ดขาด เพราะส่งผลต่อการเข้ามหาวิทยาลัยของน้อง ๆ วันนี้พี่นัทจะมาเปิดเผยเรื่องต่าง ๆ ของคะแนนที่มักถูกมองข้าม แล้วมารู้ตัวอีกที แย่แล้ว นี่มันกับดักชัด ๆ เลือกคณะนี้ไม่ได้ คณะนั้นก็ไม่ได้ นั่นเพราะน้อง ๆ ไม่ได้ศึกษามาก่อนไงว่า คะแนนมันไม่ใช่แค่การเข้าไปสอบ ตอบถูกแล้วได้คะแนน แต่มันมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่อาจทำให้เราตกม้าตายในสนามแข่ง TCAS ได้เลย แล้วเรื่องของ “คะแนน” มีอะไรบ้างที่ต้องรู้ ตามพี่นัทไปดูกันเลย



 

1. รู้ประเภทของคะแนน

คะแนนในระบบ TCAS มีหลายประเภทมาก ๆ ไม่ได้มีแค่วิชาหลักที่น้อง ๆ ได้ยินชื่อบ่อย ๆ จะสอบเข้าสาขาอะไร คณะไหน ใช้คะแนนประเภทอะไรต้องรู้ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวสอบได้อย่างถูกต้อง โดยคะแนนสามารถแบ่งประเภทได้ ดังนี้

- คะแนนในกลุ่มข้อสอบกลางของ ทปอ. ได้แก่ TGAT, TPAT และ A-Level 

- คะแนนในกลุ่มวิชาเฉพาะของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่น วิชาเฉพาะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ฯลฯ

- คะแนนวัดความสามารถทางภาษา จากสถาบันจัดสอบต่าง ๆ เช่น TOEFL, IELTS, SAT, CU -TEP, TU-GET ฯลฯ

- คะแนนสอบภาคปฏิบัติ ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่น วาดรูป ร้องเพลง เล่นดนตรี นาฏศิลป์ไทย - สากล ฯลฯ

- คะแนนสอบเฉพาะกลุ่ม เพื่อเข้าบางคณะ เช่น BMAT ใช้เข้าคณะในกลุ่มแพทย์ 

- คะแนนสอบตรงของมหาวิทยาลัยที่จัดสอบเอง

 

2. รู้จักการนำไปใช้ 

ในการเข้ามหาวิทยาลัยมีการใช้คะแนนจากการสอบที่หลากหลาย ผสมกันในแต่ละประเภท ตามการออกแบบรูปแบบการรับของแต่ละสาขา คณะ และมหาวิทยาลัย โดยสามารถแบ่งได้คร่าว ๆ ดังนี้

- TGAT ใช้บางพาร์ต หรือใช้ทุกพาร์ต

- TGAT + TPAT + GPAX / GPA 

- TGAT + TPAT + GPAX + A-Level 

- TGAT + TPAT + วิชาเฉพาะ  

- A-Level + วิชาเฉพาะ

- TGAT + TPAT + A-Level + วิชาเฉพาะ

คะแนนสอบต่าง ๆ เหล่านี้ พอนำมาจับกลุ่มกัน อาจทำให้หลายคนงงกันได้ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ ข้อมูลเหล่านี้จะประกาศไว้ในระเบียบการการสอบของแต่ละสาขาที่น้อง ๆ สนใจอยู่แล้วค่ะ แต่นำมาให้ดูภาพรวมก่อนว่า เราอาจจะต้องเจอกับการจับกลุ่มคะแนนที่มีความหลากหลายได้ ดังนั้นถ้าสาขาที่เราอยากเข้า กำหนดว่าต้องใช้คะแนนอะไร น้องจะต้องตามสอบเก็บมาให้เรียบอย่าให้ขาด ไม่ใช่ได้คะแนนสูงมากในบางวิชา แต่สอบไม่ครบตามองค์ประกอบที่แต่ละสาขากำหนด แบบนี้ไปต่อไม่ได้เลยนะคะ เรื่องนี้รุ่นพี่ของน้อง ๆ เคยเจ็บใจกันมาแล้วค่ะ

 

3. รู้ค่าน้ำหนัก

ในการเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ใช่รู้แค่ผลคะแนนสอบเท่านั้น ว่าเราได้คะแนนเท่าไหร่ มากน้อยแค่ไหน แต่จะต้องรู้ว่าในแต่ละวิชาเหล่านั้นคิดเป็นค่าน้ำหนักเท่าไหร่ ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยใช้สูตรการคำนวณที่แตกต่างกัน น้อง ๆ จะต้องคำนวณคะแนนแยกตามแต่ละสถาบัน เพื่อที่จะได้นำคะแนนดิบที่สอบได้ มาคำนวณเป็นคะแนนรวม เพื่อใช้ในการคัดเลือก และประเมินความเสี่ยง ความน่าลุ้น และความเหมาะสมในการเลือกคณะ

 

4. รู้จักคะแนนขั้นต่ำ

คะแนนขั้นต่ำคือ เกณฑ์ของคะแนนที่ต้องทำให้ได้ไม่น้อยกว่าที่สาขากำหนด โดยทำหน้าที่เป็นเกณฑ์ผ่านคุณสมบัติ แต่ไม่นำมาใช้คิดค่าน้ำหนักคำนวณคะแนน เหมือนจะไม่น่ากลัว แต่หลาย ๆ คน ตกรอบไปต่อไม่ได้เพราะสาเหตุนี้ คือทำคะแนนวิชาอื่น ๆ ได้สูง แต่ไปติดที่บางวิชาได้คะแนนน้อย แต่ดันน้อยจนไม่ถึงเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำที่สาขานั้นกำหนดไว้ ต่อให้คะแนนรวมน้องจะสูงแค่ไหน จบค่ะ! ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์ หมดสิทธิ์ได้รับการพิจารณา ดังนั้นศึกษาให้ดีว่าสาขาหรือคณะที่เราอยากเข้า มีการตั้งด่านของคะแนนขั้นต่ำไว้หรือไม่

 

5. รู้อายุของคะแนน

คะแนนต่าง ๆ ในการเข้ามหาวิทยาลัย ไม่สามารถนำมาใช้ได้ตลอดไป มีอายุการใช้งานเป็นตัวกำหนด เช่น TGAT, TPAT, A-Level มีอายุ 1 ปี หรือถ้าเป็นพวกคะแนน CU-TEP, SAT, IELTS มีอายุ 2 ปี หากไปหยิบจับใช้คะแนนหมดอายุขึ้นมา ถือว่าเสียของไปเลยนะคะ อะไรต้องสอบใหม่ก็ต้องเตรียมให้พร้อม อะไรใช้ได้นานอายุยาวหน่อย ก็เลือกคะแนนครั้งที่ดีที่สุดไปยื่นแข่งขัน

 

เรื่องของคะแนนจึงไม่ได้มีสิ่งต้องรู้แค่ว่า เราได้คะแนนเท่าไหร่ แต่ต้องรู้เงื่อนไข ข้อกำหนด กติกาต่าง ๆ เกี่ยวกับคะแนนด้วย จะได้นำไปใช้วางแผนออกแบบการเลือกคณะให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นระบบ TCAS หลักสูตรนานาชาติ หรือการรับตรงอื่น ๆ นอกระบบ TCAS และถ้าใครยังไม่มั่นใจว่าจะพิชิตคะแนนในแต่ละประเภทได้อย่างไร พี่นัทแจกตัวช่วยให้แล้วกัน กับการติวแบบคูล ๆ ติดแบบคิวท์ ๆ กับ VCOURSE แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ทาง https://vcourse.ai อยากอัปคะแนนวิชาไหน คลิกดูรายละเอียดได้เลย